#ประวัติโดยสังเขปองค์บรมครูปู่เพชรฉลูกัณฐ์
พ่อแก่พระเพชรฉลูกัณฐ์ ท่านเป็นบรมครูใหญ่ด้านพระเวทย์ และนาฏศิลป์ ทางภาคใต้ของไทยถือว่าท่านเป็นครูหนัง หมายถึงพวกเล่นหนังตะลุง ส่วนทางภาคกลางถือว่าท่านเป็นครูลิเก และครูช่าง
พ่อแก่พระเพชรฉลูกัณฑ์ เป็นอวตารภาคหนึ่งแห่งองค์พระวิษณุกรรมมหาเทพผู้ทรงฤทธิ์ธานุภาพมาก อวตารในภาคพระมหาฤษี เพื่อสั่งสอนสรรพวิชาให้กับมวลมนุษย์ และเป็นแบบอย่างที่ดีงามเกี่ยวกับการถือพรตฤษีให้กับพระฤษีทั้งปวง
ในทางพระเวทย์ พ่อแก่พระเพชรฉลูกัณฑ์ เป็น 1 ในบรมครูปู่ฤษีทั้ง 9 พระองค์ ที่ศิษย์สายพระเวทย์ทุกสายล้วนให้ความเคารพยำเกรงสูงสุด ห้ามพูดจาหรือกระทำการจาบจ้วงเด็ดขาด และถือว่าครูแรงมาก การประกอบพิธีไสยเวทย์ล้วนต้องเชิญบรมครูปู่ฤษีทั้ง 9 เพื่อความเป็นมงคลและความสัมฤทธิ์ผลในวัตถุประสงค์ของการประกอบพิธีกรรม
พ่อแก่พระเพชรฉลูกัณฑ์ ถือเป็นพระมหาฤษีชั้นพรหม มี 2 ปาง คือ 1. ปางพระพักตร์เทพ หรือหน้ามนุษย์ 2. ปางพระพักตร์อสุรเทพ ถือว่าครูแรงมาก และ 1 ในพระครูฤษีทั้ง 9 ที่กล่าวมา ได้แก่
1. พระฤษีตาไฟ
2. พระฤษีพระเพชรฉลูกัณฑ์
3. พระฤษีนารอด
4. พระฤษีนารายณ์
5. พระฤษีพระภรต
6. พระฤษีหน้าวัว
7. พระฤษีทัศนะมงคล
8. พระฤษีกัสสะปะ
9. พระฤษีกะไลยโกฏิ์
*********
“พระฤาษีเพชรฉลูกรรณ์ญังธัมมธาดา” ท่านเป็นพระฤาษีที่เลิศทางด้านเสริมดวงชะตาและหนุนดวงชะตา ผู้ที่มีปัญหาดวงตกดวงไม่ดี เบญจเพสพระเคราะห์เสวยอายุ จะต้องบูชาองค์พระฤาษีเพชรฉลูกรรณ์เป็นองค์แรก เพื่อแก้ดวงยกชะตาออกจากพระเคราะห์ ยกดวงให้สูงขึ้นไม่ให้ดวงถูกพระเคราะห์เข้าแทรก ผู้ที่บูชาองค์ปู่เพชรฉลูกรรณ์ไว้จึงเปรียบเสมือนมอบดวงชะตาชีวิตไว้ให้ท่าน ดูแลหนุนเสริมให้ดวงดี ปู่เพชรฉลูกรรณ์จึงถือได้ว่าเป็นปู่ฤาษีที่ช่วยเรื่องดวงมากที่สุดในกระบวน ฤาษีทั้ง 108 องค์
********
ตำนานเกี่ยวกับการกำเนิดของพระองค์มีหลากหลายที่มา ทั้งในศาสนาพราหมณ์ , ศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ และในตำนานอื่น ๆนอกจากการเรียกชื่อของพระองค์ว่าพระวิษณุกรรม (ชื่อที่ทางศาสนาพุทธเรียก) แล้ว ยังมีการเรียกชื่อพระองค์ในชื่ออื่น ๆ อีก เช่น พระตวัษฎฤ (Tvasti ชื่อของท่านในสมัยพระเวท) พอในสมัยปุราณะเรียกพระองค์ว่า พระวิศวกรรม (พระวิศวกรรมา , พระวิศวกรมัน , พระวิศวกรรมัน , พระวิศุกรรม) , พิษณุกรรม , พระเวสุกรรม (เทพทางนาฎศิลป) , พระวิสสุกรรม (เทพทางการค้าขายและเป็นตราประจำกระทรวงพาณิชย์) ,
พระเพชรฉลูกรรม หรือพระฤาษีเพชรฉลูกรรม (ครูดุริยศิลป์ , ครูกระบี่กระบอง , ครูด้านกีฬาและเวทมนต์คาถา) ,
ที่ประเทศพม่าเรียกพระองค์ว่า พิสสุกรรม ที่ประเทศกัมพูชา (เขมร) เรียกพระองค์ว่า โปปูสนูกรรม
****คนไทยนิยมพระองค์เรียกว่า "พระวิษณุกรรม" และมักเรียกกร่อนลงเหลือเพียง 'พระวิษณุ' เฉย ๆ เลยไปคล้องกับพระวิษณุ (พระนารายณ์ เทพผู้คุ้มครองโลก) ทำให้คนไทยทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าพระองค์คือองค์เดียวกันกับพระวิษณุ (พระนารายณ์)ที่คนไทยเรารู้จักกันดี ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน ๓ เทพ (ตรีมูรติ) องค์สำคัญของศาสนาฮินดู (ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ (พระนารายณ์) และพระศิวะ) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด นอกจากนี้พระองค์ยังมีพระนามอย่างอื่นอีก เช่น ปชาบดี (Prajapati ผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน) , การุ (Karu ผู้ทำงาน) , ตักษะกะ (Takshska ผู้ตัดไม้) , เทวะวรรธิกะ (Devavardhika ผู้สร้างอาวุธแก่ทวยเทพ) , สุธนวัน (Sudhanwan ผู้มีคันศรอันดีงาม) เป็นต้น
(อันนี้ก็อีกตำนานหนึ่งครับ ตามความเชื่อโบราณ )
กระโถนข้างธรรม