พระวิศนุกรรมนั้นถือเป็นเทพ "ชั้นผู้ใหญ่" ที่สถิตย์อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ และเป็นบริวารของพระอินทร์อีกทีหนึ่ง มีชื่ออยู่หลากหลายตามประสาของเทพ ทั้งพระวิษณุกรรม พระวิศวกรรมา พระวิสสุกรรม วิศวกรรมัน พระเวสสุกรรม หรือ พระเพชฉลูกรรม ซึ่งชื่อทั้งหมดที่ว่ามานั้นสามารถกล้อมแกล้มแปลความหมายได้ว่า "ผู้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง"
ตำนานเทพเจ้าของฮินดูนั้นกล่าวว่า พระวิศวกรรมมีสามตา กายสีขาว ทรงอาภรณ์สีเขียว โพกผ้า ในการสร้างรูปเคารพมักจะไม่เหมือนกัน เช่นบ้างก็สร้างให้พระองค์ถือคทา จอบ ไม้วา ไม้ฉาก ผึ่ง (เครื่องมือสําหรับถากไม้ รูปร่างคล้ายจอบ แต่มีขนาดเล็กกว่าและด้ามสั้นกว่า) และลูกดิ่ง เป็นต้น
ในพุทธศาสนาของเรานั้นพระวิศวกรรมมีบทบาทมาก ในตำนานเล่าว่า ท่านเป็นผู้สร้างบรรณศาลาและอาศรมให้แก่พระโพธิสัตว์หลายพระองค์ เท่าที่จำได้ก็เห็นจะเป็นพระเวสสันดร ในมหาเวสสันดรชาดก เป็นผู้สร้างบันไดเงิน บันไดทอง บันไดแก้วถวายแด่สมเด็จพระสรรญเพชรชุดาญาณสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อใช้เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ที่เมืองสังกัส-สนคร หลังจากเสร็จภารกิจในการเทศนาโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ช่วงเข้าพรรษา
ส่วนในวรรณคดีไทยก็มีปรากฏอยู่หลาย ๆ เรื่องที่พระวิศวกรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะต้องทำตามบัญชาของพระอินทร์ในการช่วยเหลือผู้มีบุญ เช่นในเรื่องสังข์ทอง (ในปัญญาสชาดกเรียกว่า "สุวรรณสังขราชกุมาร") พระอินทร์ก็มีเทวบัญชาให้พระวิศวกรรมไปท้าท้าวสามนต์บิดาของนางจรนาตีคลี ซึ่งสุดท้ายพระสังข์ก็ต้องถอดรูปเงาะและอาสาออกไปแข่งคลีแทน
ในรามเกียรติ์ก็บอกว่าเมืองลงกาของทศกัณฐ์และเมืองทวารกาของพระกฤษณะนั้นก็สำเร็จด้วยฝีมือของพระวิศวกรรมเช่นกัน และถ้าใครอ่านชื่อเต็มของกรุงเทพฯ ให้ดี ๆ ก็จะพบว่า พระวิษณุกรรมเป็นผู้สร้างด้วยนะ ไม่เชื่อลองไปดูคำว่า “…วิษณุกรรมประสิทธิ์” สิครับ
อีกตอนหนึ่งที่พระวิศวกรรมมีบทบาทก็คือตอนกำเนิดพระคเณศวร คือแรกเริ่มเดิมทีพระคเณศวรก็เหมือนกับกุมารธรรมดาทั่วไปนั่นแหละ แต่ด้วยวาจาสิทธิ์ของพระนารายณ์ก็เลยทำให้เศียรของพระกุมารคเณศวรขาดหายไป ครานี้ก็ถึงทีที่พระวิศวกรรมต้องระเห็จไปหาเศียรมาต่อ ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ พอดีไปเจอช้างพลายตัวหนึ่งนอนตายโดยหันหัวไปทางทิศเหนือ (บ้างก็ว่าทิศใต้) พระวิศวกรรมก็เลยตัดหัวช้างตัวนั้นแล้วนำมาต่อเข้ากับกายพระกุมารคเณศวร และพระคเณศวรจึงมีเศียรเป็นช้างแต่นั้นมา
ในวรรณคดีเรื่องลิลิตนารายณ์สิบปาง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่หก มีการกล่าวถึงพระวิศวกรรมไว้ในปางที่สอง กูรมาวตาร เรื่องของเรื่อก็คือว่ามีการกวนน้ำอมฤตกัน และเมื่อกวนไป ๆ ก็เกิดของวิเศษผุดขึ้นมา ได้แก่ โคสุรภี (เทวดายกให้พระฤษีวศิษฐ์) เหล้า ต้นไม้ปาริชาต (พระอินทร์เอาไปเก็บไว้บนสวรรค์) นางอัปสร พระจันทร์ (พระอิศวรเอาไปเป็นปิ่นปักผม) พิษ (ตอนแรกงูและนาครีบมาสูบ แต่พระอิศวรกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อโลก พระองค์ก็เลยเสวยเสียเอง ทำให้พระศอของพระองค์ไหม้เป็นสีดำ) พระศรีเทวี และสุดท้ายน้ำอมฤตก็ตามมา
เศียรครู พระวิษณุกรรม พร้อมฐานปิดทอง
งานเรซิ่น ปิดทองเค ขนาดเล็ก กว้างประมาณ 4 นิ้ว สูงรวมฐาน 8 นิ้ว
ราคาสินค้า 590.- (เศียรพร้อมฐานปิดทอง)
ค่าส่งสินค้า 60.-
กรุณาโอนเงินยอดรวมส่ง 650.-
กรณีสินค้าหมด สั่งทำ 10 วัน นับจากวันชำระเงินค่ะ
เมื่อท่านชำระเงินแล้ว กรุณาแจ้งแอดมินทางไลน์
ไอดี @baanrukhuakhon
