ท้าวจักรวรรดิ ยักษ์ตนหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นกษัตริย์แห่งกรุงมลิวัน สหายของทศกัณฐ์ ได้ร่วมมือกับไพนาสุริยวงศ์(โอรสทศกัณฐ์) เข้ากอบกู้กรุงลงกา โดยยกทัพไปทำศึกจับพิเภก ก่อนที่จะจัดพิธีมอบราชสมบัติกรุงลงกาคืนแก่ไพนาสุริยวงศ์ และให้นามใหม่ว่า ท้าวทศพิน ต่อมาพระพรตจึงได้ยกทัพมาปราบ และยืดเยื้อมาถึงเมืองมลิวัน เกิดการต่อสู้อย่างต่อเนื่องหลายครั้งหลายคราว และกำราบท้าวจักรวรรดิลงได้
ท้าวจักรวรรดิ เป็นหนึ่งในทวารบาลในพระบรมมหาราชวังคู่กับท้าวอัศกรรมมาลา
ลักษณะ
กายสีขาว มี ๔ พักตร์ ๘ กร ใบหน้าแบ่งเป็น ๒ ชั้น ชั้นแรกเป็นหน้าปกติ ๑ หน้า ชั้นที่ ๒ เป็นหน้าเล็ก ๓ หน้า ปากแสยะตาโพลง แต่บางครั้ง ก็เห็นเป็นปากแสยะ ตาจระเข้ มีเขี้ยวโง้งแหลม สวมมงกุฎหางไก่
ประวัติ
ท้าวจักรวรรดิเป็นเจ้าเมืองมลิวัน มีพระมเหสีชื่อนาง วัชนีสูร กายสีนวล ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎนาง มีโอรสและธิดาด้วยกัน ๔ องค์คือ
สุริยาภพ กายสีแดงชาด ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎและสัณฐานเหมือนอินทรชิต
บรรลัยจักร กายสีม่วงอ่อน ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎหางไก่
นนยุพักตร์ กายสีเขียว ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎน้ำเต้ากลม
นางรัตนมาลี กายสีนวลจันทร์ ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎนาง
เมื่อไพนาสุริยวงศ์โอรสทศกัณฐ์กับนางมณโฑ ไปขอความช่วยเหลือให้ชิงกรุงลงกาคืนจากพิเภก ท้าวจักรวรรดิจึงยกทัพไปตีกรุงลงกา จับท้าวทศคีรีวงศ์ (พิเภก) จำตรุ แล้วอภิเษกไพนาสุริยวงศ์เป็นท้าวทศพินครองกรุงลงกา เมื่อพระพรตยกทัพมาปราบกบฏที่กรุงลงกาแล้ว ก็ยกทัพไปทำสงครามกับท้าวจักรวรรดิถึงเมืองมลิวัน เมื่อโอรสทั้งสามถูกสังหารหมด ท้าวจักรวรรดิรบกับพระพรต ถูกศรพรหมาสตร์สังหาร ก่อนสิ้นชีวิตมองเห็นสังข์ คทา จักร ออกจากกายของพระพรต พระสัตรุด ท้าวจักรวรรดิทราบว่าเป็นส่วนหนึ่งของนารายณ์อวตารจึงทูลขออภัยโทษ
จักรวรรดิ ขนาดกลาง งานกระดาษ
ทองเค ประดับเลื่อม พร้อมฐานไม้สีดำ
กว้าง 4 นิ้ว สูง 10 นิ้ว